คณิตศาสตร์ม.2สมการกำลังสองตัวแปรเดียว

คณิตศาสตร์ม.2                       

                                 สมการกำลังสองตัวแปรเดียว

สมการซึ่งมี x เป็นตัวแปรและมีรูปแบบทั่วไปเป็น ax2+bx+c=0 เมื่อ a,b,c
เป็นค่าคงตัวและ  a0 เรียกว่า สมการกำลังสองตัวแปรเดียว
เรื่อง สมการกำลังสองตัวแปรเดียว ใจความสำคัญของเรื่องนี้ อยู่ที่การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว ซึ่งในการแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียวนั้น ไม่ยากครับ   แต่ต้องฝึกทำบ่อยๆ ทำโจทย์เยอะๆครับ  ซึ่งการแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียวเพื่อหาคำตอบของสมการนั้น มีหลายวิธีครับ อย่างเช่น การแทนค่าตัวเลขต่างๆลงในตัวแปรแล้วดูว่าสมการเป็นจริงไหม ถ้าเป็นจริงแสดงว่าตัวเลขที่เราแทนลงเป็นเป็นคำตอบสมการกำลังสองตัวแปรเดียว แต่วิธีนี้ไม่นิยมครับ มันยากครับวิธีนี้ คงไม่มีใครมานั่งแทนตัวเลขที่ล่ะตัวลงในตัวแปรหรอกน่ะครับ วิธีการที่นิยมใช้กันคือ
1. การแยกตัวประกอบ(แยก factor)
2.การดึงตัวร่วม
3.ใช้ผลต่างกำลังสอง
และอื่นๆ อีกมากมายครับ  ผมว่าเรามาลองทำโจทย์ดีกว่า ครับ
แบบฝึกหัด2.1 ก (คณิตฯเพิ่มเติม)
จงแก้สมการต่อไปนี้
1. x2=7x
วิธีทำx2=7x  ข้อนี้ง่ายมากเลยครับ ย้ายให้ไปอยู่ฝั่งเดียวกันก่อนจะได้
x2+7x=0  เมื่ออยู่ฝั่งเดียวกันแล้ว สังเกตว่าแต่ละพจน์มีตัวแปร x ร่วมอยู่ด้วยนั้นหมายถึงมี x เป็นตัวร่วมครับ เราสามารถใช้วิธีการดึงตัวร่วม เพื่อหาคำตอบของสมการกำลังสองตัวแปรเดียวของข้อนี้ได้ครับ ต่อๆๆ...
x(x+7)=0  ถึงบรรทัดนี้ จะเห็นว่า x  คูณกับ x+7 แล้วมีค่าเท่ากับ ศูนย์ สองค่าคูณกันแล้วได้ศูนย์นั่นหมายความว่า
x=0  หรือ  x+7=0 x=7
ตอนนี้เราได้คำตอบของสมการกำลังสองตัวแปรเดียวสองคำตอบคือ x=0 และ x=7
ง่ายหรือเปล่าครับ อันนี้ผมพยายามอธิบายที่ละ step แล้วน่ะครับ ไม่เข้าใจก็โพสต์ถามได้ครับ
2. r2=100
วิธีทำ ข้อนี้มองโจทยตอบได้เลยครับ อะไรเอ๋ย ยกกำลังสองแล้วมีค่าเท่ากับ 100
ก็มีอยู่สองค่า คือ 10  กับ 10  ครับ หรือถ้าจะแสดงวิธีทำก็ใช้วิธีนี้ครับ

r2=100
r2100=0
r2102=0  
(r10)(r+10)=0  ใช้ผลต่างกำลังสองน่ะครับข้อนี้   หน้า2 -  หลัง2 = (หน้า - หลัง) (หน้า + หลัง )
จะได้   r10=0  หรือ  r+10=0
r=10   หรือ  r=10
3. (y13)2=0
วิธีทำ (y13)2=0
(y13)(y13)=0
จะได้  y13=0  นั่นคือ y=13

4. x22x+1=0
วิธีทำ x22x+1=0
(x1)(x1)=0    ข้อนี้ใช้การแยกตัวประกอบน่ะครับ
จะได้  x1=0 นั่นคือ x=1

5. x2+4x+4=0
วิธีทำ x2+4x+4=0
(x+2)(x+2)=0
จะได้ x+2=0  นั้นคือ x=2

6. x22x8
วิธีทำ x22x8
(x4)(x+2)=0
จะได้  x4=0  หรือ  x+2=0
นั้นคือ  x=4 หรือ  x=2

7. x2+6x+5
วิธีทำ x2+6x+5
(x+5)(x+1)=0
จะได้ x+5=0  หรือ  x+1=0
นั่นคือ x=5  หรือ  x=1

8. p2+5p14=0
วิธีทำ p2+5p14=0
(p+7)(p2)=0
จะได้ p+7=0  หรือ p2=0
นั่นคือ p=7  หรือ p=2
9. x2+5x+6=0
วิธีทำ x2+5x+6=0
(x+3)(x+2)=0
จะได้ x+3=0  หรือ x+2=0
นั่นคือ =3  หรือ x=2
10. x23x10=0
วิธีทำ x23x10=0
(x5)(x+2)=0
จะได้  (x5)=0  หรือ (x+2)=0
นั่นคือ x=5   หรือ x=2
11. a27a+12=0
วิธีทำ a27a+12=0
(a4)(a3)=0
จะได้ (a4)=0  หรือ (a3)=0
นั่นคือ a=4 หรือ a=3
12. x2+7x+12=0
วิธีทำ x2+7x+12=0
(x+3)(x+4)=0
จะได้ (x+3)=0  หรือ (x+4)=0
นั่นคือ x=3  หรือ x=4
13.y24y+3=0
วิธีทำ y24y+3=0
(y3)(y1)=0
จะได้ (y3)=0  หรือ (y1)=0
นั่นคือ y=3  หรือ y=1

14.x2+8x7=0
วิธีทำ x2+8x7=0
นำ 1  คูณเข้าทั้งสองข้างของสมการครับ  เครื่องหมายจะเปลี่ยนน่ะจากลบเป็นบวก  จากบวกเป็นลบจะได้
x28x+7=0 ต่อไปก็แก้สมการโดยการแยกตัวประกอบครับ
(x1)(x7)=0
จะได้  (x1)=0  หรือ (x7)=0
นั่นคือ x=1  หรือ x=7

15.1110xx2=0
วิธีทำ 1110xx2=0
ก่อนจะแก้สมการควรที่จะเรียงพจน์ใหม่ก่อนน่ะครับ ให้อยู่ในรูป ax2+bx+c=0 ครับ จะได้
x210x+11=0 จะเห็นว่าสัมประสิทธิ์ของ x2 ติดลบน่ะครับ เราต้องทำให้เป็นบวกก่อนน่ะครับ เพื่อความง่ายในการแก้สมการครับ การทำให้เป็นบวกทำได้โดยการนำ 1 คูณเข้าทั้งสองข้างของสมการครับ จะได้
x2+10x11=0
(x+11)(x1)=0
จะได้ (x+11)=0  หรือ (x1)=0
นั่นคือ x=11 หรือ x=1
16. x2=8x16
วิธีทำ x2=8x16
จัดสมการใหม่ก่อนน่ะครับ โดยจัดให้อยู่ในรูป ax2+bx+c=0 ก็คือทำให้ฝั่งขวาของเครื่องหมายสมการเป็นศูนย์นั่นเองครับ จะได้
x2+8x+16=0
(x+4)(x+4)=0
จะได้ x+4=0
นั่นคือ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น